[SF tvxq] เบื้องหลังการท่องเที่ยวจอลลาโด yaoi - [SF tvxq] เบื้องหลังการท่องเที่ยวจอลลาโด yaoi นิยาย [SF tvxq] เบื้องหลังการท่องเที่ยวจอลลาโด yaoi : Dek-D.com - Writer

    [SF tvxq] เบื้องหลังการท่องเที่ยวจอลลาโด yaoi

    ผู้เข้าชมรวม

    1,228

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.22K

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.พ. 54 / 20:25 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     ฟิคก็คือฟิคนะ อาจจะเหมือนเรื่องจริงไปซะมากแต่มันก็มาจากความคึดส่วนตัวของไรเตอร์จร้า  

    ยุนแจสู้ๆๆ

    ดงบังชินกิสู้ๆ

    ขอบคุณมากๆที่ยังอยู่กับพวกเรา 
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ++เบื้องหลังการไปเที่ยวจอลลาโด++




      เวลาย่ำรุ่ง บริเวณริมแม่น้ำที่เงียบเฉียบไร้ซึ่งผู้คน ชายหนุ่มร่างสูงยืนดื่มกาแฟอยู่ที่พักริมทาง สายตาคมเหม่อมองพระระอาทิตย์ที่กำลังจะฉายขึ้นวันใหม่ พลันรอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้า
      เช้าแล้ว...เขากำลังจะได้เจอกับคนที่คิดถึงที่สุด...แจจุง
      นึกถึงได้ไม่นานเสียงรถยนต์ก็ดังเคลื่อนใกล้เข้ามาก่อนจะหยุดจอดข้างๆรถของยุนโฮ ร่างของสามตัวแสบ เดินลงมาจากรถสปอร์ตคันหรู 
      “พี่ยุนโฮทำไมนัดเจอที่ที่มันหาง่ายแบบนี้เนี้ย ผมหาเป็นชั่วโมงเลย” มิคกี้บ่น ทว่า ยุนโฮไม่ได้สนใจแล้ว โน่นเดินไปกอดคิมแจจุงซะแน่น พร้อมกับยิ้มหวาน 
      “เป็นไงบ้าง อาการดีขึ้นรึยัง” ยุนโฮถาม เพราะคอนเสิร์ตเมื่อวานก่อนหนาวมากๆ แถมที่รักของเขาก็ดันต้องใส่เสื้อผ้าบางๆอีก หลังจากนั้นเลยเกือบจะไข้ขึ้นทีเดียว
      “ก็นิดหน่อย ได้พักผ่อนเมื่อวานก็ดีขึ้นแล้วหล่ะ” 
      “พี่ฮะ...”ยูชอนพยายามจะคุยด้วย
      “น่าจะพักอีกสักหน่อยนะ หน้ายังเซียวอยู่เลยๆ” มือหนาลูบแก้มใส
      “ยูชอน นายก็ปล่อยเค้าไปเถอะ นานๆจะได้เจอกันที” จุนซูที่เดินหาวตามมาบอกยูชอนพร้อมกับเดินมากอดคอ
      “นานๆเจอที่ไหน ตอนคอนเสิร์ตก็เจอ โทรศัพท์ก็คุย แถมยังจะบีบีกันทั้งวันอีก ยังไม่พอใช่มั้ยเนี่ย” มิคกี้พูดประชดเสียงดัง ก็คนมันอยากแกล้งอะนะ
      “ก็คนเค้ารักกันอ่ะ แกไม่ได้ห่างกับจุนซูบ้างจะไปรู้อะไร ชั้นเคยอยู่กับแจจุงตลอดเวลาหนิ คุยโทรศัพท์มันไม่ช่วย บีบี ก็ไม่ได้เห็นหน้าเข้าใจม่ะ” ยุนโฮบ่นซะยาวเหยียดโอบไหล่แจจุงเอาไว้
      “อย่าโมโหเลยยุน ยูชอนเร่งขับรถมาทั้งคืนเพื่อจะมาเจอกันเนี่ยแหละ ว่าแต่ช่วงนี้เราลดๆใช้บีบีกันหน่อยเถอะ ไม่อยากให้มีรูปออกไปแล้ว คราวก่อนที่เกือบจะแย่ ดีว่าที่mtvk เค้าช่วยทำโฟโต้ช้อปออกมา ไม่งั้นยุนต้องโดนหนักแน่” แจจุงพูดทำหน้าเครียด ก็อะนะ บีบีที่เขาใช้มั้นเป็นของยุนโฮจริงๆนี่นะ
      “บางทีก็อยากจะหนีไปให้มันรู้แล้วรู้รอดเหมือนกันนะ เฮ้อ”หัวหน้าวงถอนหายใจ มองหน้าแจจุง ทุกคนเงียบกันไป เพราะต่างก็เข้าใจความรู้สึกของกันดี
      “แต่ก็เปลี่ยนกรอบแล้วไม่ใช่หรอแจ ใช้ไปเหอะ อย่าคิดมากเลย แค่ระวังอย่าให้มีรูปอะไรออกมีอีกล่ะกัน เค้าก็ไม่กล้าลงมือกับชั้นมากหรอก เพราะกลัวชั้นจะหนีไปอยู่กับพวกนายจริงๆ” ยุนโฮบอกแจจุง มองหน้าหวานอย่างหลงใหลปนกลุ้มใจ 
      “แล้วนี่เจ้าชางมินไปไหนเนี่ย อุตส่าห์มาเจอกันทั้งที” จุนซูถามขึ้น ยังคงโอบไหล่มิคกี้ไว้ 
      “โน่น มาเยี่ยมชั้นที่กองตั้งแต่เมื่อคืนแล้วก็นอนอุตุอยู่ในรถน่ะแหละ” ยุนโฮยิ้มออก หันหน้าไปที่รถ
      “กินกับนอนเป็นอย่างเดียวเลยนะ เจ้านี่หนิ ต้องไปกวนซะหน่อยแล้ว” จุนซูบอกเดินไปที่รถ
      “จุนซูรอด้วย ไม่อยากเป็นก้าง” ยูชอนพูดเดินตามสุดที่รักไปอีกคน 
      “ตอนคอนร้องไห้ทำไม เหนื่อยมากหรอ” ยุนโฮหันมาถามร่างบางอย่างจริงจัง
      “ก็เพลงนั้น...มันทำให้เจ็บทุกครั้งเวลาที่ร้องจริงๆ ชั้นเป็นคนปล่อยให้ยุนจากไป แล้วก็ต้องมานั่งเสียใจ รอวันที่จะได้กลับมาเจอกัน”แจจุงพูดน้ำตาคลออออกมาอีกครั้ง เพลงนั้น มีความหมายมากๆ เป็นเพลงที่แต่งให้ยุนโฮคนเดียวเท่านั้น
      “ เลิกพูดแบบนี้เถอะ เราคุยกันมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ทุกๆคนก็ต้องมีทางเลือกของตัวเองนะ ชั้นกับนายถึงจะรักกันแค่ไหน แต่ยังไงเราก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง”ยุนโฮกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
      “มันก็ใช่ ชั้นรู้ว่าตัวเองได้เลือกเส้นทางที่ถูกต้องไปแล้ว แต่ว่ามันก็อดไม่ได้ที่จะเจ็บ ชั้นคิดทุกวันว่าถ้านายกับชางมินออกมาด้วยคงจะดี ทุกๆครั้งที่ขึ้นเวที ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป  นอกจากที่ว่างของนายสองคน ชั้นคิดถึงมากจริงๆ”แจจุงบอกปล่อยหยาดน้ำตาให้ไหลออกมา ไม่อยากเชื่อว่าปีนึงแล้วแต่เขาก็ยังคงร้องไห้กับเรื่องนี้อยู่ มันนเหนื่อยมากกับอุปสรรคทุกอย่างที่เจอ  ถึงจะได้เจอกันแบบนี้ แต่ก็อดกลัวอนาคตไม่ได้เหมือนกัน
      “แจจุง...” ยุนโฮพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะพูดอะไรดีเพื่อปลอบใจ เขาเองก็เสียใจทุกวัน คิดว่าเขาจะไม่คิดถึงการเต้น การแสดงบนเวทีหรอ คิดว่าเขามีความสุขมากหรือไงที่ต้องอยู่ในบริษัทบ้านั่น ทุกวันมันเหมือนกับกำลังอาศัยอยู่ในบ้านของศัตรู ถึงจะยังอุ่นใจที่มีชางมิน  แต่ความกดดันมันมีมากกว่า
      “รอชั้นก่อนนะ รออย่างที่นายบอกเอาไว้ในเพลง นายน์ไง นายไม่ต้องวิ่งตามหาชั้น ไม่ต้องคุกเข่าอ้อนวอน แค่ขอให้รอชั้นก็พอ”ยุนโฮจ้องตาหวาน
      “  รักของเรา เก้าปีแล้วนะ ถึงชั้นไม่พูดเราก็รู้กันดีใช่มั้ย ทุกอย่างที่ชั้นรู้สึก ยุนเข้าใจใช่มั้ย”  
      “โอ๊ย พี่เลิกขยี้ผมได้มั้ย คนกำลังนอนได้ที่เลย” ชางมินบ่นเดินหนีจุนซูออกมาจากรถ   เสียงทำสามคนทำให้คู่รักพี่ใหญ่ของวงรีบออกจากโหมดเศร้า แล้วหันมายิ้ม 
      “ก็คนเค้าอุตส่าห์หอบสังขารมาหา เอาแต่นอนอยู่ได้ ไม่คิดถึงกันเลยใช่มั้ย” 
      “ไม่ ผมอยู่กับพี่ยุนเงียบหูกว่าเยอะเลย ไม่มีใครแย่งไก่กินด้วย ฮ่าๆ” ชางมินเชิดหน้าพูดกลับ
      “มันน่าเสียใจมั้ยเนี่ย ยุชอนดูสิ ”ร่างเล็กหันไปฟ้องยูชอน
      “ชางมินพูดเล่นหรอก ไม่คิดถึงจะมาหาถึงจอลลาโดมั้ย”
      “ผมมาหาพี่ยุนที่กองต่างหาก”
      “สรุปว่าไม่ได้อยากเจอพวกเราเลยว่างั้น”จุนซูปรายตามอง
      “ก็อยากมาเจอพี่แจนะ คิดถึงอาหาร วันนี้ได้เอาอะไรมาฝากป่าวอะ” ชางมิน
      หันหน้าไปถามแจจุงที่ยืนอมยิ้มมองพวกเค้าอยู่กับยุนโฮ
      “ไม่มี วันนี้พี่รีบออกมากัน เลยไม่ได้เอาอะไรมาเลย” แจจุงบอก
      “มัวแต่ห่วงของกิน โน่นไปง้อจุนซูไป หน้าเป็นตูดไปแล้ว”ยุนโฮพยักเพยิด 
      “พี่อย่ามาเข้าโหมดงอนได้ป่ะ รู้แล้วว่าน่ารัก แย่งไปหมดแล้ว อิมเมจความน่ารักของผมอ่ะ เลิกทำหน้าแบบนั้นแล้วไปแข่งเกมส์กับผมดีกว่า” ชางมินเสนอเด็กน้อยขี้งอนประจำวง
      “เอามาด้วยหรอ” จุนซูถามลองเชิง
      “แน่นอน”
      “แล้วไหนบอกว่าไม่ได้อยากเจอไง เอาเกมส์มาเผื่อทำไม”
      “ก็มันติดมือมา คนมันขาดเกมส์ไม่ได้อ่ะ ถามอยู่ได้ พี่จะเล่นมั้ยเนี่ย”ชางมินขู่ 
      “โอเค มาประชันกันเลยมา ที่โรงพยาบาลตอนนั้นยังไม่พอใช่ม่ะ ชั้นจะแสดงฝีมือให้ดู” 
      “โธ่ตอนนั้นผม ป่วยอยู่หรอกน่า วันนี้พี่จะได้รู้ความจริง ฮ่าๆ” ชางมินพุดอวด
      “ชั้นไปเล่นเกมส์นะยูชอน”หันมาทำหน้าน่ารักใส่
      “จร้า เดี๋ยวชั้นจะเข้าไปงีบในรถซะหน่อย”
      “ไปนอนในรถพี่ยุนด้วยกันสิ ชั้นคิดถึง” จุนซูอ้อน
      “คิดถึงอะไรก็อยู่ด้วยกันตลอด ไปเล่นเถอะ จะได้สนุกเต็มที่ไม่ต้องกลัวชั้นจะตื่น”
      “งั้นหลับฝันดีน้า..”จุนซูพูดตบก้นยูชอนแล้วเดินตามชางมินไป เขาไม่อยากตื้อเพราะรู้ว่ายูชอนชอบอยู่คนเดียว
      “ผมไปนะพี่ หวานกันตามสบาย”มิคกี้ตะโกนบอกคู่รักยุนแจที่ดูเหมือนว่าจะรอเวลาความเป็นส่วนตัวมานาน
      “ก่อนมานี่ได้ทวิตบอกแฟนๆรึเปล่า” ยุนโฮก้มตัวลงถามคนตัวเล็กที่อิงอกอยู่
      “บอกว่าจะมาเที่ยว พักผ่อนอะไรกันนี่ยุนไม่ได้อ่านทวิตชั้นหรอ” 
      “ก็มัวแต่ยุ่งถ่ายละครอ่ะจ๊ะ แล้วแบบนี้เค้าก็คงได้รู้กันหมดหน่ะสิ ว่าเราแอบมาหากัน” ยุนโฮแอบเปลี่ยนเรื่อง ถามอย่างขำๆ
      “ก็คงพอเดาๆได้หล่ะ ชั้นก็อยากบอกใบ้ให้แฟนๆเค้าได้จิ้นกันบ้าง จะได้รู้ว่าเรายังโอเคกัน บางทีมันก็ยากที่พวกเค้าจะเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ชั้นไม่อยากให้พวกเค้าคิดมากเกินไป ” 
      “กลัวว่าจะมีคนตามมาเป็นโขยงแทนหน่ะสิ ทีนี้คงได้ข่าวตูมใหญ่ออกมาแน่ๆ”
       
      “ก็ยูชอนทวิตแล้วไง ว่าไม่ให้ใครตาม แฟนๆก็คงจะพอเข้าใจ ถึงได้ภาพเราไป เค้าก็คงช่วยกันปิดหน่ะแหละ” 
      “ว่าแต่ จีจี้เป็นไงบ้าง ทำไมไม่เอาลูกมาด้วย บอกแล้วว่าคิดถึง”ยุนโฮอ้อนถาม 
      “ก็ลูกป่วยเลยไปฝากพี่ชั้นไว้ที่ร้าน วันนี้คงจะพาไปหาหมออีก” 
      “อยู่ด้วยกันก็ป่วยกันทั้งสองคนแม่ลูกเลยนะ ชั้นไม่อยู่แค่วันสองวันเอง สงสัยคงต้องรีบกลับไปบ้านซะแล้ว”ยุนโฮพูดแล้วหอมแก้มใส
       
      “ฮ่าๆ ยุนอ่ะ จั๊กจี้ ผมหน้าม้ามันแทง” แจจุงกล่าวมองหน้ายุนโฮกับทรงผมใหม่ที่ไปตัดมาพร้อมกัน
      “จ้องอะไร” ยุนโฮถามกลับ
      “ก็มองทรงผมใหม่ ว่าดูเด็กลง”
      “ทำอย่างกับไม่เคยเห็น ก็ไปตัดมาด้วยกัน แถมใครเป็นคนบอกช่าง” ยุนโฮค้อน
      “ฮ่าๆๆ ก็มันยังไม่ชิน แต่มันน่ารักดีนะ ชั้นชอบ ว่าแต่ผู้กำกับเค้าว่าอะไรรึเปล่า ทรงผมมันไม่ค่อยเข้ากับคอนเซ็ปละครเลยนะเนี่ย” แจจุงพูดแล้วก็ขำ เอามือปัดผมหน้าของยุนโฮไปมา
      “เวลาเซ็ตมันก็ดูเท่ห์กว่านี้ แค่ยังไม่ได้แต่งตัวหรอกน่า” ยุนโฮทำหน้างอนเล็กน้อย ใครจะไปเหมือน คิมแจจุงนะที่ตัดผมทรงไหนก็ดูดีไปหมด
      “อย่าเพิ่ง งอนสิ  แจก็ชอบทรงนี้นะ น่ารักจะตาย แต่จะว่าไป ชั้นก็ยังไม่ชินกับทรงผมตัวเองเหมือนกัน มันทำให้หน้าอ้วนขึ้นอ่ะ”พูดแล้วก็เอามือจับแก้มตัวเอง
      “ก็ดีแล้ว ช่วงนี้ชั้นไม่อยู่ก็อย่าลืมสัญญานะว่าจะกินเยอะๆอ่ะ”
      “นี่ก็อ้วนขึ้นแล้วเนี่ย”
      “อ้วนที่ไหน เอวมีอยู่นิดเดียว”
      “ก็คนมันเอวเล็กอ่ะ แต่หน้าชั้นเนี่ยสิ” 
      “จะกลัวอ้วนอะไรหนักหนา อ้วนๆหน่ะดีแล้ว ชั้นจะได้กอดเต็มไม้เต็มมือหน่อย” 
      “ ยุนก็เหมือนกันแหละ ว่าแต่เค้า ตัวเองก็ผอมจะแย่” 
      “อะไรๆ คนเค้ามีแต่กล้ามบึกขนาดนี้ ใครเค้าเรียกว่าผอม” 
      “ได้ข่าวว่ากล้ามอกยุนเล็กกว่าชั้นอีกนะ” แจจุงเหล่ตามอง
      “แจก็หยุดเล่นกล้ามสักทีสิ” ยุนโฮโวยวาย
      “ก็ไม่ได้เล่นแล้วเนี่ย ใครก็ไม่รู้มาแอบเอาที่ยกน้ำหนักเค้าไปซ่อน” สายตาหวานมองไปทางคนตัวสูงที่กอดอยู่
      “อะไรๆ แค่ยืมไปใช้เฉยๆเอง ก็บอกแล้วว่าต้องฟิตหุ่นเข้าฉากละครอ่ะ” 
      “ขอยืมหรือขอลืมก็ไม่รู้ หายไปเลย ” แจจุงยู่ปาก 
      “ทำหน้าอย่างนี้มาให้จูบดีกว่ามา”ร่างสูงพูดจับคางเล็กให้หันกลับมา
      “ยุน อย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะ” แจจุงยิ้มอายๆ
      “ก็อย่ามาทำหน้ายั่วสิ หืม” ยุนโฮถามจ้องมองตาหวานแล้วก็ประกบปากทาบลงไปกับริมฝีปากแดงสด ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นรอบตัว แจจุงรู้สึกอบอุ่นอย่างที่สุด ลิ้นร้อนที่ค่อยๆแทรกซึมผ่านเข้ามามอบความหวานทำเอาแจจุงหัวใจพองโต จูบที่คุ้นเคย จากคนที่เคยจูบกันมานับไม่ถ้วน ริมฝีปากที่ต่อให้สัมผัสเท่าไหร่ก็ไม่วันเพียงพอ มันเป็นจุมพิตที่เต็มไปด้วยความรัก ห่วงหา คิดถึง ทุกๆอย่างที่รวมเป็นความรัก
      “ผมหิวแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ ฮะ” ชางมินตะโกนออกมา ทำให้ยุนแจรีบผละตัวออกจากกันแทบจะในทันที
      “ชางมิน นี่แพ้แล้วจะหนีใช่มั้ย” จุนซุเดินตะโกนตามมา ในขณะที่ยุนโฮทำหน้าบึ้ง ที่ยังจูบแจจุงไปเต็มอิ่มเลย 
      “ผมป่าวน้า มันหิวแล้วจริงๆ ท้องร้องแล้วเนี่ย พี่จะฟังดูมั้ย” 
      “พี่มีขนมที่แฟนๆให้ ติดมาในรถหน่ะ ไปเอาสิ” แจจุงหันมาบอก
      “นี่ อากาศดีจริงๆ บรรยากาศก็สวย ไปปลุกยูชอนออกมาเถอะจุนซู จะได้ถ่ายรูปกัน”ยุนโฮพูดบอกอยากจะอยุ่กันตามลำพังกับแจจุงต่อ
      “ครับๆ” จุนซุผู้ไม่รู้เรื่องก็เดินไปตามคำสั่ง
      “ รีบไล่เค้าไปเชียวนะ” แจจุงบอกทำหน้ารู้ทัน
      “ขออีกนิดนะ” ยุนโฮบอกแล้วก้มตัวลงไปจูบแจจุงต่อ คราวนี้ทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน ตั้งใจจูบกันแบบจริงจัง มือหนาประคองใบหน้าสวยไว้หลวมๆ แจจุงจับที่ไหล่ของยุนโฮ เอียงคอไปตามองศาที่จะสัมผัสกันได้มากที่สุด ความร้อนในร่างกายทั้งสองเริ่มเพื่อขึ้นต่อต้านอากาศหนาว จุมพิตครั้งนี้เหมือนจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
      “สรุปว่าปลุกผมมาดูหนังสด หรือว่าให้มาดูบรรยากาศเนี่ย” ยูชอนเดินทำหน้ามุ่ยเข้ามาขัดจังหวะ  
      “โหย ยูชอน กำลังได้อารมณ์เลย” คราวนี้ยุนโฮหน้าเซ็งกว่าเก่า ส่วนแจจุงได้แต่หน้าแดง มองเฉไปทางอื่นแบบไม่รู้ไม่ชี้อะไรทั้งนั้น
      “พี่ยุนต้องการเปิดห้องโรงแรมเลยมั้ยครับ เอาเหมือนตอนปูซานไง”ชางมินรีบสนับสนุน 
      “ก็ดีนะ เอามั้ยแจ”
      “ไม่ต้องเลย ได้ข่าวว่าใครต้องเข้ากองถ่ายตอนสายๆ” 
      “ป่ะๆ ไปถ่ายรูปกันเถอะฮะ จะได้ไปกินข้าว วันนี้ชางมินจะเลี้ยงเพราะแพ้ผม อิยะ ฮะ ฮ่า” จุนซูหัวเราะซะเต็มที่เดินไปกอดยุชอนจากข้างหลัง
      แล้วทั้งหน้าคนก็ไปยืนรวมตัวกันที่ริมรั้วถนน เบื้องหลังเป็นวิวภูเขากับหมอกจาง แสงอาทิตย์ๆฉายมากจากด้านหลัง
      ยุนโฮเดินไปจัดตั้งกล้องก่อนจะรีบวิ่งกลับมา 
      ทุกคนอยู่ในตำแหน่งของตัวเองเหมือนเคย ไฟที่กล้องกระพริบถี่  แจจุงรีบพูด
      “ฮานา จู เซ็ต” 
      “ดงบังชินกิ!!!!” ทุกคนตะโกนพร้อมกันแล้วกระโดดขึ้น รอยยิ้มแต่งแต้มบนใบหน้า ช่างเป็นภาพที่สวยงามเหลือเกิน 
      ทุกๆอย่างยังคงเหมือนเดิม ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้แย่ลง มันยังเหมือนเดิม เจ็ดปีที่แล้วเป็นยังไง ตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้น   และมันก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไป ...
      TVXQ NEVER DIE

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×